Monday, November 21, 2011

รถกระบะแหกโค้งชนรถจยย.ตาย 1 เจ็บ 2 - บานปลายเป็นม๊อบชาวบ้าน



เมื่อ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2554 พ.ต.ท.วัชรินทร์ ฐิรัฐติกาลวิวัฒน์ สารวัตรเวรสภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์กระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิตคา ที่ 1 ราย และบาดเจ็บ อีก 2 ราย ขอให้เดินทางตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศล ธรรมภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง
ที่ เกิดเหตุพบประชาชนจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์ ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 85/3 ม.2 ต.ไม้ขาว พบกองเลือดกองใหญ่ไหลนองพื้น แต่ไม่พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมและพลเมือง ดีนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตก่อนหน้านี้แล้ว ใกล้กับพบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน ขกจ - 771 เพชรบุรี จอดคว่ำอยู่ 1 คัน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์หมายยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก หมายเลขทะเบียน กน-841 ภูเก็ต จอดอยู่สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และมีไฟติดอยู่ที่ประตูด้านข้างคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันดับไฟ ทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิต 1 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งรพ.ถลาง เพื่อให้แพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาล
จาก การสอบสวนทราบว่า รถยนต์กระบะดังกล่าวได้ขับมาจากด่านตรวจท่าฉัตรไชย เพื่อขับเข้าไปในตัวเมืองภูเก็ต เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุฝนได้ตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อย ทำให้รถเกิดเสียหลัก พุ่งชนรถจักรยนต์คนที่ผู้ตายขับมาอย่างจัง ทำให้ผู้ตายที่ขับซ้อนสามออกมาจากบ้านคอเอน ต.ไม้ขาว อย่าจัง ความเร็วของรถยังได้กระแทกรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว จนได้รับความเสียหายอีก 1 คัน ซึ่งจากการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านบ้านคอเอน และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ต้องการให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาแก้ไขปัญหาบริเวณดัง กล่าวอย่าง ถาวร ซึ่งหากไม่มีการแก้ไขปัญหาเกรงว่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขึ้น
ทำ ให้ชาวบ้านกว่า 300 คน ได้นำเต็นท์มากองปิดถนนบริเวณขาเข้าเมืองภูเก็ต ทำให้รถติดเป็นอัมพาตยาวเหยียด เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมารับฟังปัญหาและ ร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งการปิดถนนดังกล่าวทำท่าจะบานปลาย และอาจจะทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าวได้รับความ เดือดร้อน ผู้ชุมนุมยื่นขอเสนอต้องการคุยเสนอ ปัญหาผ่าน นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แต่ทราบว่า นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการฯภูเก็ต ติดรายการด่วน จึงให้นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงไปเจรจากับผู้ชุมนุม 
ซึ่ง กลุ่มผู้ชุมนุม ยื่นข้อเสนอ 1.ให้เจ้าหน้าที่นำแทงปูนมาปิดบล๊อคเส้นทางฝั่งขาเข้าเมืองตั้งแต่ยูเทินทร์ ก่อนถึงโค้งคอเอน จนถึงสถานที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน 2. ต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขเส้นทางดังกล่าวอย่างยั่งยืน ซึ่งเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะช่วงฝนตก) 3.ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับคนขับรถยนต์กระบะที่ทำให้เกิด อุบัติเหตุจนถึงที่สุด ซึ่งนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รับปากว่าจะดำเนินการตามข้อตกลงของกลุ่มผู้ชุมนุม และจะเรียกตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงการทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าประชุมเพื่อร่วมวางแผนในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจและแยกย้ายกันในที่สุด
ด้าน นายสมนึก พาที ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านคอเอน กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 10 ราย และบาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะในช่วงฝนตก ซึ่งการปิดถนนครั้งนี้ ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวต้องการให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม และแขวงการทางภูเก็ต เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน เพราะหากไม่มีมีใครเข้ามาแก้ไขปัญหา ปัญหาก็ยังคาราคาซัง ก็จะทำให้อุบัติเหตุเกิดเพิ่มขึ้น ยอดผู้เสียชีวิต ก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเมืองภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวหากปล่อยให้อุบัติเหตุเกิดบ่อยครั้งและมียอดผู้เสีย ชีวิตสูงขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดได้ ซึ่งชาวบ้านบริเวณดังกล่าวไม่อยากเห็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้ว จึงได้รวมตัวกันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

เกิดเหตุชายหญิงคู่รักกระโดดสะพานท้าวเทพกระษัตรี ฆ่าตัวตายคาดสาเหตุเกิดจากความรักไม่สมหวัง.


       โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งมีชาวประมงรายหนึ่งที่หา
ปลาอยู่บริเวณนั้นได้ยินเสียงเหมือนคนตกน้ำจึงรีบขึ้นไปดูบนสะพานท้าวเทพกระษัตรีขาเข้าเมืองภูเก็ตพบรถเก๋ง
โตโยต้ายาริสสีขาว ทะเบียน กน.4423 ภูเก็ต จอดเปิดประตูอยู่แต่ไม่พบเจ้าของ จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่สถานี
ตำรวจท่าฉัตรไชย จากการสอบถามข้อมูลทราบว่าผู้ที่กระโดดสะพาน คือนางสาว ชนกพร เอี่ยมอักษร อายุ 27 ปี
ชาวอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และนายรัฐพล สิทธิยานนท์ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดตรังซึ่งทั้งสองเป็นคู่รักกัน
โดยเมื่อช่วงสายของวันที่ 28 ตุลาคมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชยพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมได้นำ
เรือยางออกตามหาร่างของทั้งสองคนแต่จนถึงขณะนี้ยังไร้ร่องรอยทั้งคู่
        และจากการสอบถาม นายชัยทัต  สิทธิยานนท์  อายุ 49 ปี บิดาของฝ่ายชาย ทราบว่าทั้งสองเป็นคู่รักที่คบหา
กันมาตั้งแต่ฝ่ายชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กระทั่งประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาทั้งคู่เริ่มมีปัญหาเรื่องการนอกใจ
กัน จึงอาจเป็นสาเหตุ ให้ตัดสินใจจบปัญหาลงด้วยวิธีการกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณ
ด่านฉัตรไชย บันทึกภาพของรถเก๋งที่ทั้งคู่นั่งมาด้วยกันขับออกจากภูเก็ตผ่านด่านท่าฉัตรไชยไปเมื่อเวลาประมาณ
13.00 น.ของวันที่ 27 ตุลาคมและไม่ได้เข้ามาในภูเก็ตอีกจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นและขณะที่เจ้าหน้าที่
กำลังออกค้นหาทั้งคู่อยู่นั้นญาติของทั้งสองฝ่ายก็มานั่งคอยอยู่บริเวณวัดท่าฉัตรไชยท่ามกลางความเศร้าโศกเสีย
ใจเป็นอย่างมาก.

Tuesday, November 15, 2011

เก๋ง BMW เสียหลักชนรถกระบะ-ร้านก๋วยเตี๋ยวกลางเมืองภูเก็ต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต-เก๋ง BMW พุ่งชนรถยนต์กระบะ ร้านก๋วยเตี๋ยว หน้าร้านหนึ่งยานยนต์เสียหายยับ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวและลูกจ้าง ด้านเจ้าของร้านหนึ่งยานยนต์ เผยมีอุบัติเหตุรถยนต์เคยพุ่งเข้าชนร้าน และเสาไฟฟ้าเกาะกลางถนนหน้าร้านมาแล้วกว่า 10 ครั้ง แล้ว และเคยร้องเรียนหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหาถนน แต่ได้รับคำตอบไม่มีงบมาดำเนินการ
 

       
       เมื่อเวลาประมาณ 01.48 น.วันนี้ ( 15 พ.ย.)ทีบริเวณหน้าร้านหนึ่งยานยนต์ ถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาออกเมืองภูเก็ต หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง BMW สีบรอนซ์ ทะเบียน กค 4175 ภูเก็ต เสียหลังพุ่งชนรถยนต์กระบะโตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน บจ 615 ภูเก็ต ซึ่งจอดอยู่อยู่ริมขอบถนนเสียหาย ก่อนรถ BMW พุ่งเข้าชนร้านขายก๋วยเตี๋ยว ร้านหนึ่งยานยนต์ และเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าร้านหนึ่งยานยนต์ ได้รับความเสียหายพังยับเยิน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว จำนวน 2 ราย เป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว คือ นายอนันต์ อิดนิ่ง อายุ 35 ปี และผู้ช่วยภายในร้านเป็นชาย
       
       นอกจากนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ของรถยนต์เก๋ง BMW ซึ่งห่างกันไม่กี่นาที ณ สถานที่เกิดเหตุเดียวกัน ก็ได้มีหญิงสาวซึ่งขับรถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง เสียหลักล้มครูดไปกับพื้นถนนเทพกระษัตรี เป็นระยะทางยาวร่วม 10 เมตร ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายจุด
       
       หลังเกิดเหตุ ร.ต.ท.อนิรุทธิ์ พัฒนานิวัฒน์ ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าตำรวจเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตในทันที พร้อมเชิญตัวคนขับรถ BNW ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต
       
       อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า รถยนต์เก๋ง BMW ได้ขับมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเสียหลักพุ่งเข้าชนรถยนต์กระบะโตโยต้า ของเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่จอดอยู่ข้างทาง และพุ่งเข้าชนร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านหนึ่งยานยนต์ แล้วไปอัดก๊อปปี้อยู่กับเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าร้านหนึ่งยานยนต์ สภาพรถพังเสียหายยับเยิน แต่คนขับกลับไม่ได้รับบาดเจ็บ
       
       ส่วนเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวและลูกจ้าง ที่กำลังเก็บขอเห็นรถเสียหลักพุ่งเข้ามาพยายามที่จะกระโดดหลบแต่ไม่พ้น โชคดีที่มีรถเข็ญบังอยู่ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนข้าวของต่างๆ ก็ได้รับความเสียหาย
       
       ด้านนางเยาวนิตย์ ศักดิ์ศรีสุวรรณ เจ้าของร้านหนึ่งยานยนต์ กล่าวว่า บริเวณถนนเทพกระษัตรี หน้าร้านหนึ่งยานยนต์ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งเนื่องจากสภาพถนนที่มีปัญหา ซึ่งมีทั้งรถยนต์พุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้า บนเกาะกลางถนน และพุ่งเข้าชนร้านหนึ่งยานยนต์ ซึ่งมีเหตุเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 10 ครั้งแล้ว
       
       ส่วนใหญ่อุบัติเหตุจะเกิดขึ้นในช่วงดึก ซึ่งเป็นช่วงที่ถนนว่าง รถที่วิ่งมาก็วิ่งมาด้วยความเร็วสูง และทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ก็ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอื่น และมีข้าวของเสียหายอย่างมาก ก่อนหน้านี้มีเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวอีกรายก็เคยถูกรถเสียงหลักพุ่งชนมาแล้วซึ่งภรรยาเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บสาหัส
       
       นางเยาวนิตย์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้หลายครั้งตนได้แจ้งไปทางหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นแขวงการทาง ทางหลวงฯ ซึ่งในส่วนของแขวงการทางก็ได้ลงมาดูพื้นที่ครั้งหนึ่งแล้ว และทางตนก็ได้ขอให้มีการทำลูกระนาดเพื่อชะลอความเร็วของรถ แต่กลับได้รับคำตอบว่าไม่มีงบประมาณ แล้วยังโยนกันไปโยนกันมา
       
       อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนจะเข้ายื่นหนังสือกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อประสานไปทางหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังไม่มีความคืบหน้าก็จะขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพราะถ้าปล่อยให้เป็นอยู่แบบนี้ เกรงว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้



Thursday, November 3, 2011

กำนันผู้ใหญ่บ้านรวมตัวกันกว่า 100 คนเข้าพบผู้การฯ ภูเก็ต


กำนันผู้ใหญ่บ้านรวมตัวกันกว่า 100 คนเข้าพบผู้การฯ
ภูเก็ตกรณีการปฎิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมของตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต.
      นายเจริญ เทวบุตร กำนันตำบลฉลองในฐานะอุปนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดภูเก็ตพร้อมด้วยสมาชิก
กำนันผู้ใหญ่บ้านอีกว่า 100 คนได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเพื่อขอความเป็นธรรมและ
ร้องเรียนการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ตต่อ พลตำรวจตรีพิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต
ในกรณีที่นายสังคม สินธุประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลรัษฎา ถูกตำรวจตรวจ สภ.เมืองซึ่งตั้งด่านบริเวณซอย
กิตติกร ถนนสุรินทร์ ได้ตรวจค้นและพบอาวุธปืนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งปืนดังกล่าวมีใบอนุญาต
ถูกต้องตามกฎหมายแต่ทางตำรวจยังยื้อไว้ประมาณ 1ชั่วโมงกว่าจะตรวจสอบหลักฐานและปล่อยตัวไปซึ่งการกระ
ทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ให้เกียรติกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
      นายเจริญ เทวบุตร กล่าวว่าการกระทำดังกล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันทั้งๆที่ผู้ใหญ
่กำนัน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐและมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเช่นกัน ซึ่งในส่วนของการพกอาวุธปืนที่ถูกต้อง
ตามกฎหมายของผู้ใหญ่กำนันนั้นไม่ได้พกไว้เพื่อโอ้อวดใครแต่พกติดตัวไว้เพื่อใช้ในการปฎิบัติหน้าที่เท่านั้นเอง
      ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าตำรวจเองทำงานผิดพลาดและล่าช้าซึ่งอาจกระทบต่อความรู้สึกของกำนันผู้ใหญ่บ้าน   ตนจึงขอโทษกำนันผู้ใหญ่บ้านแทนผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย และเรื่องนี้ตนต้องตำหนิการทำงานของตำรวจโดยต้องแก้ไขระบบการทำงานใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าผู้ที่ถูกเรียก
ตรวจค้นจะเป็นใครหากพบว่าเขาไม่ผิดก็ต้องปล่อยตัวไป  หลังจากนี้ตนจะสั่งการไปยังผู้กำกับการตำรวจภูธร
เมืองภูเก็ตให้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย.